ความหมายของสมมติฐาน

ความหมายของสมมติฐาน            
สมมุติฐาน คือคำตอบที่คาดเดาไว้ล่วงหน้า อย่างมีเหตุผล เพื่อเป็นแนวทางในการค้นคว้า หรือทดลอง สมมุติฐานมีคุณลักษณะ พอสรุปได้ดังนี้
1.       เป็นการคาดคะเนความเกี่ยวพันธ์ระหว่างตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป
2.       ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย มีความชัดเจน ไม่กำกวม
3.       สามารถให้คำตอบต่อปัญหาที่เราต้องการศึกษานั้น ได้ครอบคลุม
4.       ไม่ขัดกับหลักความจริง
5.       มีเหตุมีผล และเป็นไปตามหลักตรรกวิทยา มีหลักการและทฤษฎีรองรับ
6.       สามารถทดสอบได้
ประโยชน์ของสมมุติฐาน
                สมมุติฐานมีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นแนวทางในการศึกษา ค้นคว้า หรือทดลอง เพื่อให้ได้คำตอบ ถ้าไม่มีการตั้งสมมุติฐานไว้ก่อน การศึกษา ค้นคว้า หรือทดลองของเราก็จะไร้ทิศทาง และยากที่จะได้คำตอบ ซึ่งการตั้งสมมุติฐานหรือการคาดเดาคำตอบนั้น อาจจะคาดเดาไว้หลายๆคำตอบ แล้วทำการทดสอบว่าเป็นไปตามที่คาดเดาไว้หรือไม่ ประโยชน์ของสมมติฐานพอจะสรุปได้ดังนี้
1.       สมมุติฐานช่วยจำกัดขอบเขตของการวิจัยทำให้เรามีขอบเขตในการศึกษาที่ชัดเจน
2.       สมมุติฐานช่วยให้มองเห็นภาพของข้อมูลต่างๆ และความสัมพันธ์ของข้อมูลที่จะทำการทดสอบสมมุติฐาน
3.       สมมุติฐานช่วยให้เราสามารถเห็นภาพรวมของงานวิจัยได้ดีขึ้น
4.       สมมุติฐานจะเป็นแนวทางให้เราหาเครื่องมือในการเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง และมีคุณภาพ
ประเภทของสมมุติฐาน
                สมมุติฐานการวิจัยสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ
1.       สมมุติฐานเชิงนิรนัย (Deductive Hypothesis)  และ สมมุติฐานเชิงอุปนัย (Inductive Hypothesis)
สมมุติฐานเชิงนิรนัย เป็นการนำแนวคิดทั่วไปกว้างๆ ไปสู่แนวคิดที่แคบเฉพาะ โดยอาจจะอาศัย กฎ ทฤษฎี  เป็นพื้นฐาน
สมมุติฐานเชิงอุปนัยเป็นการนำแนวคิดที่แคบเฉพาะ แล้วนำไปสู่แนวคิดที่กว้างๆ ซึ่งอาจจะสรุปเป็นกฎ หรือทฤษฎี ในภายหลัง
2.       สมมุติฐานทางการวิจัย (Research Hypothesis) และ สมมุติฐานทางสถิติ (Statistical Hypothesis)
สมมุติฐานทางการวิจัยเป็นสมมุติฐานที่เขียนขึ้นในรูปข้อความ ด้วยการใช้ภาษาสื่อความหมายในการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆที่ใช้ในการวิจัย สมมุติฐานทางการวิจัยสามารถเขียนให้อยู่ในรูปแบบที่มีการระบุทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรได้อย่างแน่นอน ซึ่งเราเรียกสมมุติฐานในลักษณะนี้ว่า สมมุติฐานแบบมีทิศทาง (Directional Hypothesis) ในทางกลับกัน เราสามารถเขียนในรูปแบบที่ไม่มีการระบุทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร และเราเรียกสมมุติฐานในลักษณะนี้ว่า สมมุติฐานแบบไม่มีทิศทาง (Nondirectional Hypothesis)
ตัวอย่างสมมุติฐานทางการวิจัย
แบบมีทิศทาง             : ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยบทเรียนแบบโปรแกรม สูงกว่า ที่เรียนด้วยหนังสือปกติ
แบบไม่มีทิศทาง        : ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนด้วยบทเรียนแบบโปรแกรม กับที่เรียนด้วยหนังสือปกติแตกต่างกัน
สมมุติฐานทางสถิติ เป็นสมมุติฐานที่เขียนโดยการแปลงสมมุติฐานทางการวิจัยที่อยู่ในรูปของข้อความ ให้อยู่ในรูปสัญลักษณ์ทางสถิติ เพื่อการทดสอบทางสถิติ สมมุติฐานทางสถิติจะมี 2 ลักษณะ คือสมมุติฐานว่าง (Null Hypothesis) คือสมมุติฐานที่เขียนขึ้น โดยไม่ระบุความแตกต่างระหว่างคุณลักษณะใดๆของกลุ่มตัวอย่างที่เลือกมาจากประชากร นิยมใช้สัญลักษณ์ H0 แทน ส่วนสมมุติฐานทางสถิติอีกลักษณะหนึ่งคือ สมมุติฐานทางเลือก (Alternative Hypothesis) เป็นสมมุติฐานที่มีเนื้อหาสาระนัยตรงกันข้าม หรือแย้งกับสมมุติฐานว่าง นิยมใช้สัญลักษณ์ H1แทน เช่น
          H0  :µA =  µB
      H1A≠ µB
หรือ
          H0  :µA - µB  =  0
      H1  :µA- µB≠  0

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พัฒนาการแสวงหาความรู้ของมนุษย์

กรอบแนวคิดในการวิจัย

ตัวแปรในการวิจัยและการวัดค่าตัวแปร